tag:blogger.com,1999:blog-76712154658876628742024-02-08T11:18:17.720-08:00poplarfongngan.plarhttp://www.blogger.com/profile/03919864602015872977noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-7671215465887662874.post-69248924872882990862008-06-09T22:58:00.000-07:002008-06-09T23:52:08.892-07:009-13 มิถุนายน 2551 อบรม แผนที่ภาษี (ภูเก็ต)คู่มือประกอบการใช้งานโปรแกรม Autodesk Map 2004 โดยอาจารย์อุดมศักดิ์ หล่อล้ำเลิศ ณ ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT ภูเก็ต เรื่องการจัดทำแผนที่ภาษี<br />แผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน เป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินในเขตท้องถิ่นโดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ ใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการจัดเก็บรายได้ภาษีอากร 3 ประเภท ได้แก่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีป้าย และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่าง ๆ ในการประกอบกิจการการค้าตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข เรื่องของการจัดทำแผนที่ภาษียากมากถ้าไม่ตั้งใจเรียนแล้วจะทำไม่ได้เลย<br />เก็บเรื่องที่กำลังนั่งอบรมมาเล่าให้ฟัง (ถ้าใครสนใจที่จะเที่ยวภูเก็ตละก็บอกได้เลยนะ)fongngan.plarhttp://www.blogger.com/profile/03919864602015872977noreply@blogger.com5tag:blogger.com,1999:blog-7671215465887662874.post-48148701359049138642008-04-03T23:59:00.000-07:002008-06-09T23:56:55.607-07:00หัวข้อที่สนใจศึกษาเรื่อง กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเรื่องภาษีกับการพัฒนาท้องถิ่น<br />ความเป็นมาและความสำคัญ<br />องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เป็นหน่วยงานในระดับท้องถิ่นของสังคมไทย ที่ตอบรับกระแสการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเพื่อให้เป็นกลไกเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองการบริหารพัฒนาตนเองตามปรัชญาของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล ภายใต้เงื่อนไขแห่งบทบัญญัติ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลตั้งแต่ พ.ศ. 2537เป็นต้นมา โดยยกฐานะมาจากสภาตำบล ที่มีรายได้ไม่รวมเงินอุดหนุนในปีงบประมาณ ปีที่ล่วงมาติดต่อกัน 3ปี เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 150,000.- บาท ให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับพื้นฐานของสังคม และภายใต้ข้อกำหนดแห่งรัฐธรรมนูญ ราชอานาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาตรา 282 – 290 ระบุว่า รัฐต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นในการพึ่งตนเองและตัดสินใจในภารกิจของท้องถิ่นได้เอง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ระบบสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น และรัฐบาลมีหน้าที่กำกับดูแลเท่าที่จำเป็นภายใต้กรอบของกฎหมาย<br />ในประเทศไทยได้จัดตั้ง อบต. จำนวน 6,746 แห่ง เดิมมีการแบ่งชั้นของ อบต. เป็น 5 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 มีรายได้ 20 ล้านบาทขึ้นไป ชั้นที่ 2 มีรายได้ 12 – 20 ล้านบาท ชั้นที่ 3 มีรายได้ 6 – 12 ล้านบาท ชั้นที่ 4 มีรายได้ 3 – 6 ล้านบาท ชั้นที่ 5 มีรายได้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างพระบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลฉบับใหม่โดยยกเลิกการแบ่งชั้น อบต. ให้เป็นขนาด ขนาดของอบต.จะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ อบต.ขนาดใหญ่ อบต. ขนาดกลาง และอบต. ขนาดเล็ก ซึ่ง อบต.กรุงหยัน จัดอยู่ในประเภทของ อบต. ขนาดเล็ก<br />เนื่องจากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นรูปธรรมได้ที่ อบต. ท้องถิ่นต้องมีการเงินที่ดี มีอิสระ มีความสามารถในการบริหารการคลังได้ด้วยตนเอง โดยกำหนดให้เงินรายได้ที่ อบต. จัดเก็บเองไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน อบต. จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารการจัดเก็บภาษีโดยเน้นระบบการจัดเก็บภาษีและเพิ่มรายได้ เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลกลางในการจัดสรรเงินอุดหนุน นอกจากนั้นยังเป็นการสอดคล้องกับยโยบายการกระจายอำนาจให้แก่องคืกรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอิสระในการ ปกครองตนเองมากขึ้น<br />องค์การบริหารส่วนตำบล มีรูปแบบคล้ายการปกครองระดับชาติ ประกอบด้วย 2 ส่วน ดังนี้<br />1.) สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งได้รับเลือกตั้งจากราษฎรในตำบลนั้น ๆ หมู่บ้านละ 2 คน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบในเรื่องแผนพัฒนาตำบล ร่างข้อบัญญัติตำบล ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และควบคุมการปฏิบัติงานของ คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล<br />คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 1 คน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2 คน เลขานุการผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล 1 คน มีหน้าที่ บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล จัดทำแผนพัฒนาตำบล และจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี รายงานผลการปฏิบัติและการใช้จ่ายเงินให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ทราบ และปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย<br />รายได้ขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก่ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2542 มาตรา 74 – 82 จำแนกได้ดังนี้<br />1. ภาษีที่จัดเก็บเอง<br />1.1 ภาษีบำรุงท้องที่<br />1.2 ภาษีโรงเรือนและที่ดิน<br />1.3 ภาษีป้าย<br />2. ภาษีที่รัฐจัดเก็บเพิ่มให้<br />2.1 ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ<br />2.2 ภาษีสุรา<br />2.3 ภาษีสรรพสามิตร<br />2.4 อากรฆ่าสัตว์<br />3. ภาษีที่รัฐจัดเก็บให้ และจัดสรรให้ องค์การบริหารส่วนตำบลตามสัดส่วน<br />3.1 ภาษีและค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ดิน<br />3.2 ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์และล้อเลื่อน<br />3.3 รายได้จาสาธารณูปโภคและการพาณิชย์<br />3.4 รายได้เบ็ดเตล็ด เช่น เงินที่มีผู้อุทิศให้<br />3.5 เงินอุดหนุนจากรัฐบาล<br />มารตาการ การจัดเก็บภาษีรายได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ<br />1. อบต. จัดเก็บรายได้เอง ส่วนนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ<br />กลุ่มที่ 1 การจัดเก็บรายได้ภาษีอากรซึ่งทุก อบต. ต้องปฏิบัติเป็นแบบแผนเดียวกันโดยจัดเก็บตามพระราชบัญญัติต่าง ๆ ได้แก่<br />1.1 พระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และที่แก่ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3)<br />พ.ศ. 2543<br />1.2 พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และที่แก่ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2534 และที่แก่ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5 ) พ.ศ. 2543<br />1.3 พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534<br />กลุ่มที่ 2 การจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จัดเก็บตามข้อบัญญัติตำบลที่ตราขึ้น เพื่อใช้บังคับในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของตนเองเท่านั้น<br />2. รายได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล ได้จัดสรรจากส่วนราชการอื่น<br />3. รายได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล ได้รับเงินอุดหนุนทั่วไผจากรัฐบาล<br />ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน องค์<br />กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชน และกรรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับดูแลสนับสนุนการบริหารงานของ อบต. ได้เห็นความสำคัญในการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนตำบลด้วยเหตุดังกล่าว รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการจัดเก็บรายได้ขององคืการบริหารส่วนตำบลตลอดมาแต่องค์การบริหารส่วนตำบล มีปัญหาในการ ดำเนินการในหลายด้าน ประกอบกับรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการวางโครงสร้าง การบริหารและระเบียบต่าง ๆ หลายครั้ง จึงทำให้การดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนตำบลขาดความต่อเนื่อง และมีปัญหาในการบริหารโดยเฉพาะปัญหาทางด้านงบประมาณ ดังที่กล่าวถึง จุดอ่อนในด้านงบประมาณขององ๕การบริหารส่วนตำบลมีรายได้น้อยไม่เพียงพอกับการกำหนดโครงการขององค์การบริหารส่วนตำบลไม่ค่อยถูกต้องตามหลักวิธีการเนื่องจากกรรมการยังมีขีดความสามารถในการจัดทำแผนจำกัดส่งผลกระทบให้การบริหารงบประมาณขาดประสิทธิภาพ<br />จะเห็นได้ว่า ปัญหางบประมาณเป็นปัญหาหนึ่งที่สำคัญยิ่ง เพราะจะส่งผลเชื่อมโยงกับปัญหาอื่น ๆ เนื่องจากการดำเนินงานตามโครงการเพื่อพัฒนาต่าง ๆ ถึงแม้ว่าองค์การบริหารส่วนตำบลโดยทั่วไปมีฐานะเป็นนิติบุคคล แต่อำนาจหน้าที่เกี่ยวกับวิธีการงบประมาณและการคลังยังจะต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการทางงบประมาณองค์การบริหารส่วนตำบลแต่ละแห่ง<br />ความสามารถในการจัดเก็บรายได้และการบริหารรายได้ ถือเป็นมาตรการ พื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะสามารถผลักดันให้การปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพึ่งตนเองได้ จำเป็นต้องมีการจัดการที่ดี คือ การพัฒนาระบบการคลังท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการบริหารการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดรายได้กับท้องถิ่นมากที่สุด เพื่อลดการพึ่งพาเงินอุดหนุนจากส่วนกลาง สร้างเอกภาพและความมั่นคงในการปกครองตนเองตามหลักการกระจายอำนาจ เพื่อลดการถูกควบคุมการทอนอำนาจและสิทธิในการปกครองตนเองให้น้อยลง รายได้ของท้องถิ่นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการบริหารเพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้า สามารถอำนวยความสะดวกและความผาสุขของประชาชนในท้องถิ่นโดยรัฐบาลกลางใช้มาตราการ การกระจายอำนาจทางการคลังให้ท้องถิ่นมีอิสระในด้านการคลัง เช่นการใช้จ่ายเงิน การจัดเก็บรายได้ที่อยู่ในอำนาจขององค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลจะต้องปฎิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 แต่ทั้งนี้ การคลังท้องถิ่นจะสัมพันธ์กับการคลังส่วนกลาง โดยรัฐจะยังคงดูแลเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวมและเป็นไปตามมาตรฐาน ขณะเดียวกันจะสนับสนุนในกิจการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ท้องถิ่น<br />ด้วยเหตุนี้เองที่การจัดการด้านการจัดเก็บรายได้ มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของ อบต. การศึกษาในเรื่องดังกล่าว จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านการจัดเก็บรายได้ของ อบต. เฉพาะในประเด็นประสิทธิผลของการจัดเก็บรายได้ ผู้วิจัยเลือกที่จะศึกษา อบต. ในเขตตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากมี อบต. หลายแห่งได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล ตามหลักการบริหารจัดการที่ดี (ธรรมาภิบาล) จากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในช่วงปี 2545 – 2546 และเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาประสิทธิผลในการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนตำบลอื่น ๆ ต่อไป<br />วัตถุประสงค์<br />1.) เพื่อศึกษาการเรียนรู้ร่วมกันของประชาชนในการจัดเก็บภาษี ของ อบต. กรุงหยัน<br />2.) เพื่อศึกษาความรู้ ความเข้าใจ เรื่องภาษีของประชาชน ของ อบต. กรุงหยัน<br />3.) เพื่อศึกษาประสบการณ์และขั้นตอนการเสียภาษีของ อบต. กรุงหยัน<br />ขอบเขตของการวิจัย<br />1.) ประชากร<br />ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลกรุงหยัน และประชาชนผู้เสียภาษีขององค์การบริหารส่วนตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช<br />1.1) ประชากรจากภาครัฐ (พนักงาน อบต.) ประกอบด้วย นายก องค์การบริหาร<br />ส่วนตำบลกรุงหยัน 1 คน รองนายก องค์การบริหารส่วนตำบล 1 คน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล 1 คน หัวหน้าส่วนการคลัง 1 คน หัวหน้าส่วนโยธา 1 คน และเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 1 คน รวมเป็น 6 คน<br />1.2) ประชาชนจากภาคประชาชน ประกอบด้วย ประชาชนผู้มีหน้าทีเสียภาษีใน<br />พื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกรุงหยัน ทั้งแปดหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 3 คน รวมเป็น 24 คน<br />2.) ขอบเขตเนื้อหา<br />การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมุ่งให้ประชาชนได้เรียนรู้ร่วมกันกับพนักงานขององค์การบริหารส่วนตำบลกรุงหยัน เรื่องภาษีกับการพัฒนาท้องถิ่น<br />แนวคิดทฤษฎี<br />1. ยุทธศาสตร์การพัฒนาการจัดเก็บรายได้<br />2. ระบบการจัดเก็บรายได้<br />3. ขั้นตอนและวิธีการจัดเก็บรายได้<br />วิธีการดำเนินการวิจัย<br />1. โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก/การสนธนากลุ่ม<br />2. ประชุมแกนนำชุมชน<br />3. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันfongngan.plarhttp://www.blogger.com/profile/03919864602015872977noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-7671215465887662874.post-33244169565361517092008-02-09T22:33:00.001-08:002008-02-09T22:33:30.556-08:00ความเข้าใจเรื่องภาษีภาษีบำรุงท้องที่- ภาษีป้าย- ภาษีโรงเรือนและที่ดินเรื่องของภาษีสำคัญมาก การเสียภาษีแต่ละประเภทมีระยะเวลาในการชำระ ตั้งแต่เดือน มกราคม - เดือนเมษายนในฐานะที่หมูหวานเป็นเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ก็อยากจะเชิญชวนให้ ทุกคนไปชำระภาษีตามระยะเวลาที่กำหนดด้วยนะจะถ้าหากเลยระยะเวลาที่กำหนดก็จะมีค่าปรับด้วย (พ้นเมษาค้าปรับแพง)fongngan.plarhttp://www.blogger.com/profile/03919864602015872977noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7671215465887662874.post-206532920685409322007-12-16T18:24:00.000-08:002007-12-16T18:57:45.678-08:00ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลางโดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความชื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญาและความรอบคอบเพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดีfongngan.plarhttp://www.blogger.com/profile/03919864602015872977noreply@blogger.com0